ประสบการณ์จากการทำ ศัลยกรรมที่ผิดพลาด ตอนที่2
ปรึกษามาดามวุ้นเส้น จองคิวทำศัลยกรรม
ไลน์ id :@pavoonsen ( มี@นะคะ )
Tel: 0900420999
เวลาทำการ 11.00-20.00 น
ป้าวุ้นเส้นเล่าเรื่องจริง… เธอเสพติดศัลยกรรม หรือ แพทย์ทำกันแน่ …………ตอนที่สอง กราม
ตัดกราม แก้ไขรูปหน้า รึสร้างปัญหากันล่ะเนี่ย !!!!!!!!
ป้ามาแชร์ประสบกรามของ ” ซิลเวีย ” ค่ะ
ดังนรกชังหรือสวรรค์แกล้ง อนิจจา ทำไมตัดออกมาสองข้างไม่เท่ากัน
นี่ขนาดทำโดยแพทย์และชาวคณะ ( นักศึกษาแพทย์ )
ในยุคสมัยหนึ่ง ความงามแบบลูกครึ่งตะวันตก
ได้สร้างแรงจูงใจให้ผู้คนส่วนใหญ่ ในประเทศไทยของเรานี่แหละ
ต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้คล้ายคลึง ความงามดังกล่าว
บ้างก็เพื่ออยากจะเข้าวงการบันเทิง ฯลฯ
แต่หากในยุคสมัยปัจจุบัน ความงามแบบเอเชีย มาแรง
( แต่ทำไมไทยไม่เคยได้เป็นผู้นำเทรนด์ฟ่ะ )
ใครต่อใครจึงอยากสวยใสแบบเกาหลีกัน
รูปหน้าต้อง V เชฟ
ตากลมโตแบบแบ๊ว ๆ
จมูกโด่งพอประมาณ
ที่สำคัญชั้นต้องขาวววววววววว
ขาเรียวยาว
เสื้อผ้า หน้าผม แบบแฟชั่นเกาหลี
และแน่นอน ซิลเวีย ก็ต้องการเช่นนั้น
สิ่งที่” ซิลเวีย ” ไม่สามารถควบคุม หรือปฏิเสธได้ คือ
เธอหลงใหลใบหน้าสวย ๆ และต้องการจะได้เป็นเจ้าของมัน
ซึ่งเป็นสิ่งที่หญิงสาวทุกคนต้องการ รวมถึงป้าวุ้นเส้นด้วย
( ใครจะอยากไม่สวยฟ่ะ )
เมื่ออยากได้ ก็ต้องดิ้นรน ไขว่คว้า ใครบอกว่าอะไรดี
ก็เชื่อเค้าทำตามอย่างกัน
แต่ผลที่ได้มักออกมาเสียหายในภายหลัง
และแก้ไขได้ยาก ลำบากเกิ๊น
เมื่อมีเทคนิคทางการแพทย์ใหม่ ๆ ( ในสมัยนั้น ประมาณ เกือบ 7 ปีแล้ว )
ที่เข้าใจว่าสามารถแก้ไขรูปหน้าของ ” ซิลเวีย “ได้
จะรอช้าอยู่ไย ไปเอากรามบาน ๆ นี้ออกดีกว่า ตัดมันออกไปให้พ้นจากชีวิตเธอ
อย่างถาวรซะที อยู่ด้วยกันมาจนป่านนี้ มิได้มีประโยชน์อันใดเลย
เมื่อความคิดนั้น วนเวียนอยู่ในหัวของเธอตลอดเวลา
ตอกย้ำเธออย่างสม่ำเสมอทุกวัน ทุกวัน
ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจพึ่งมีดหมอศัลยกรรม ตัดมุมกรามโดยหวังว่า
หน้าเธอจะเรียวหวาน แต่ ……เรื่องราวหาได้เป็นเช่นที่เธอหวังไม่
ก่อนอื่น ขอเกริ่นเรื่องวิธีการตัดมุมกราม เพื่อความเข้าใจกันก่อน
วิธีที่ 1 การผ่าตัดภายนอกช่องปาก
วิธีนี้จะเปิดแผลภายนอก
โดยตรงบริเวณมุมกรามเข้าไปที่มุมกระดูกขากรรไกรทั้ง 2 ข้าง
แล้วใช้เครื่องมือแพทย์ซึ่งเป็นเลื่อยเล็กๆ
ตัดตามตำแหน่งที่ต้องการ
แม้วิธีนี้จะฟังดูง่าย หลังผ่าตัดอาการบวมก็มีน้อย
และแทบไม่ต้องดูแลอะไรมาก
แต่ปัจจุบันความนิยมกลับลดน้อยลง
เนื่องจากมีโอกาสกระทบกระเทือนต่อเส้นประสาท
ที่มาเลี้ยงมุมปากได้ชั่วคราว
และที่สำคัญคือจะมีรอยแผลผ่าตัด (ประมาณ 2-3 ซม.) ทั้ง 2 ข้าง
ขอย้ำว่า วิธีนี้มีรอยแผลผ่าตัดออกมาอวดประชาชีนะค๊ะ
วิธีที่ 2การผ่าตัดภายในช่องปาก
แม้จะต้องอาศัยความชำนาญและเครื่องมือพิเศษ
ที่สามารถเลื่อยกระดูกที่ต้องการตัดแต่งได้ในซอกแคบๆ กว่าวิธีแรก
แต่นั่นมิใช่อุปสรรคสำหรับศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ
ที่สำคัญวิธีนี้จะผ่าโดยผ่านซอกเหงือกด้านหลังฟันกราม
ไปยังมุมกระดูกขากรรไกร
จึงไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับเส้นประสาทที่เลี้ยงกล้ามเนื้อมุมปาก
อีกทั้งสามารถตัดแต่งได้ตลอดกระดูกขากรรไกร
เนื่องจากสามารถเปิดแผลได้ยาวกว่า
โดยไม่ต้องคำนึงถึงแผลเป็นทำให้ได้กระดูกกรามที่โค้งเนียนขึ้น
และวิธี้คือวิธีที่น้องจอยใช้ค่ะ
ดูรีวิวน้องจอย ตัดกรามได้ที่นี่ ลิ้งค์
ซิลเวียเธอใช้วิธีที่ 1 ค่ะ เนื่องจากในตอนนั้นวิธีที่ 2 ยังไม่เกิด
การผ่าตัดของเธอ ประกอบไปด้วยแพทย์ และชาวคณะ
ชาวคณะ ในที่นี้ ป้าวุ้นเส้นหมายถึง คณะนักศึกษาแพทย์
และเมื่อถึงเวลาผ่าตัด แพทย์ก็ได้ลงมีด ลงมือ พร้อมสาธิตและอธิบายอะนาโตมี่
มุมกรามของ ซิลเวียไปด้วย สอนตัดมุมกรามให้ชาวคณะไปด้วย
( แพทย์ลงมือทำที่ด้านซ้ายของกรามซิลเวีย )
หลังจากนั้น ก็ถึงคราวที่ชาวคณะ ต้องลงมือภาคปฏิบัติ
ด้วยการตัดมุมกรามที่ด้านขวาของซิลเวีย
โอ้ พระเจ้าช่วย กล้วยหักมุก
กรามของเธอไม่เท่ากันค่ะ
ด้านที่แพทย์ตัดก็เรียบดี
แต่ด้านที่ชาวคณะตัดนี่ซิ
เป็นขั้นบันไดเชียว
ถ้ามองด้วยตาเปล่าก็ไม่กระไรนัก
แต่ในเมื่อมันอยู่บนหน้าเธอ เมื่อไรก็ตามที่เธอสัมผัสมัน
เธอจะเจ็บปวดใจอย่างแสนสาหัส
แล้วยังมีแผลเป็นให้เห็นตำตาอีก
ถึงแม้ว่า เธอจะพยายามที่จะแก้ไข กรามนี้อีกครั้ง
แต่ อย่างที่ทราบกัน ถ้าพยายามทำอีก อาจส่งผลให้เธอ
สูญเสียเส้นประสาทบริเวณนั้น มันจะแย่กว่าเดิมอีก
อย่างไรก็ตาม เธอหาได้ย่อท้อไม่
เมื่อมองกระจกคราใด เธอก็จะพยายามหา หรือคิดไปเองว่า
ส่วนใดบนใบหน้าเธอ มีข้อบกพร่อง ที่เธอคิดว่าควรได้รับการแก้ไข
เธอก็จะยอมเจ็บตัว เสียตังค์
เพื่อให้หมอศัล ฯ ไร้จรรยาบรรณ ยำหน้าเธอต่อไป
แล้วมาติดตามเรื่องราวของ ซิลเวีย กับการดึงหน้าลบตีนกา ในวัยใกล้ 40
ในตอนต่อไปค่ะ