บทที่ 9 อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลัง การเสริมหน้าอก
ปรึกษามาดามวุ้นเส้น จองคิวทำศัลยกรรม
ไลน์ id :@pavoonsen ( มี@นะคะ )
Tel: 0900420999
เวลาทำการ 11.00-20.00 น
บทที่ 9
อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลัง การเสริมหน้าอก
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- การชาที่หัวนมหรือเต้านม อาจเกิดขึ้นได้หลังผ่าตัดแต่อาการมักดีขึ้นเอง
- หลังจากการเสริมหน้าอกด้วยถุงเต้านมร่างกายจะมีการสร้างพังพืดรอบถุงเต้านม ถ้าพังพืดมีการแข็งตัวมากขึ้นก็จะรัดถุงเต้านม จนเต้านมมีรูปร่างผิดปกติ การผ่าตัดทำโดยแก้ไขพังพืดแล้วอาจต้องเปลี่ยนถุงเต้านมเป็นถุงใหม่
- การเสริมหน้าอกทำให้การอ่านแมมโมแกรมยากขึ้น
- การผ่าตัดไต้กล้ามเนื้อช่วยให้อ่านแมมโมแกรมได้ดีขึ้น
- การตั้งครรภ์จะทำให้เต้านมมีขนาดใหญ่ขึ้นโดยขึ้นอยู่กับแต่ละคนมีขนาด เท่าไร ดังนั้นผลระยะยาวของขนาดและรูปร่างของเต้านมจะเปลี่ยนไป
- เส้นประสาทรับความรู้สึก การเสริมหน้าอกอาจมีการกระทบกระเทือนเส้นประสาทรับความรู้สึกได้ หลังผ่าตัดอาจมีลักษณะอาการเจ็บแปลบๆในบางตำแหน่ง จากการที่เส้นประสาทรับความรู้สึกอาการเหล่านี้จะค่อยๆดีขึ้น อย่างไรก็ตามถ้ามีอาการปวดและมีการบวมแดงหรือเขียวมากควรกลับมาให้แพทย์ตรวจโดยทันที
- การไม่เท่ากัน โดยทั่วไป เต้านมข้างซ้ายและข้างขวาจะมีรูปร่างแตกต่างกันเสมอตั้งแต่ก่อนผ่าตัดโดยหน้าอกมีขนาดใหญ่กว่าอีกข้างหนึ่งระดับหัวนมและฐานนมจะมีความแตกต่างกัน หลังการผ่าตัด การหายของแผลแต่ละข้างก็จะแตกต่างกันโดยที่ข้างหนึ่งเจ็บแต่อีกข้างหนึ่งจะไม่รู้สึกเจ็บ หรือข้างหนึ่งอาจบวมกว่าอีกข้างหนึ่งลักษณะนี้มักพบใน คนไข้ส่วนใหญ่จะรู้สึก ถึงความแตกต่างของทั้งสองข้าง แต่หลังจากแผลหายสนิทแล้วทั้งสองข้างจะดูใกล้เคียงกันและเป็นธรรมชาติ
- เสียงการเคลื่อนไหวของถุง ระยะแรกเวลาขยับถุงหรือเคลื่อนไหวร่างกายในบางตำแหน่งจะได้ยินเสียงถุงเสียดสีกันเป็นภายในบางครั้งอาจได้ยินบ่อยมากจนน่ารำคาญเสียงเกิดจากอากาศที่ค้างอยู่เล็กน้อยหรืออาจมีน้ำเหลืองค้างอยู่เวลาขยับตัวจึงได้ยินเสียงโดยทั่วไปอากาศหรือน้ำเหลือง ที่ตกค้างจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้เอง ภายใน 2-3 อาทิตย์เสียงเหล่านี้ก็จะหายไป
- การเข้าที่ การผ่าตัดเสริมหน้าอก ไม่ว่าจะใช้ถุงแบบใดใช้เวลาหนึ่งจึงจะเข้าที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผ่าตัดใส่ใต้กล้ามเนื้อจะใช้เวลาหลายอาทิตย์หรือหลายเดือนกว่าจะเข้าที่ไม่เปลี่ยนแปลงโดยที่หลังผ่าตัดกล้ามเนื้อและผิวหนังจะถูกยืดออกจนกระทั่งถุงเต้านมไม่ถูกกดทับโดยผิวหนังและกล้ามเนื้อ ในผู้หญิงที่มีรอบอกเล็กผิวหนังจะตึง และกล้ามเนื้อหน้าอก แข็งแรงอาจต้องใช้เวลา 3-6 เดือนกว่าจะเข้าที่ ฉะนั้นในระยะแรกๆ 1-2 อาทิตย์หลังผ่าตัดใต้กล้ามเนื้อภาพที่เห็นอาจจะยังไม่ใช่ภาพหน้าอกที่แท้จริงต้องรอเวลาสักระยะหนึ่งก่อน เต้านมที่สูงเกินไปหรือทรงตั้งเกินไปในระยะแรกเมื่อเวลาผ่านไปจะดูดีขึ้นการเสริมหน้าอกตรงเหนือกล้ามเนื้อจะใช้เวลาเข้าที่เร็วกว่าใต้กล้ามเนื้อ
- ความรู้สึกของหัวนม หัวนมมีความรู้สึกเปลี่ยนไปได้หลายแบบบางครั้งมีความรู้สึกปกติบางครั้งอาจรู้สึกช้า หรือบางครั้งมีความรู้สึกไวกว่าปกติการที่มีความรู้สึกไวกว่าปกติเป็นปัญหามากที่สุดโดย ทั่วๆไปจะภายใน 10 วันหรือ 1 เดือน หรือหลายเดือน การชาที่หัวนมพบได้บ่อยแต่มักมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ การชาถาวรไม่ค่อยพบ เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วเส้นประสาทที่หัวนมจะมีเส้นประสาทมาเลี้ยง 3 เส้นจากด้านนอกและ 3 เส้นจากด้านใน การกระทบกระเทือนเส้นประสาททั้งหมดเกิดได้ยาก
- การปวด อาการปวดจากการเสริมหน้าอก อาจจะมีระดับปานกลาง การผ่าตัดใต้กล้ามเนื้อปวดมากกว่าเหนือกล้ามเนื้อแผลที่อยู่ที่รักแร้ทำให้ปวดมากกว่าแผลที่อยู่ที่หัวนมหรือใต้ราวนมโดยทั่วไปอาการปวดจะแตกต่างกันตามวุฒิภาวะของแต่ละคนในช่วงระหว่างนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลจะใช้ยากลุ่ม มอร์ฟีนและขณะที่กลับบ้านสามารถใช้ยาแก้ปวดกลุ่มพาราเซตามอล ร่วมกับยาแก้ปวดอื่นได้ โดยทั่วไปอาการปวดจะดีขึ้นในช่วง 2-3 วันในบางคนอาจมีอาการปวดร้าวไปที่แขนหรือหลังซึ่งแก้ไขได้โดยการประคบน้ำอุ่นและรับประทานยาแก้ปวดงดการเคลื่อนไหวที่รุนแรง
- การคัน การคันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ที่มีแผลโดยอาจจะคันรอบเต้านมหรือบริเวณแผลผ่าตัดเกิดจากการกระทบกระเทือนของเส้นประสาทรับความรู้สึก โดยทั่วไปจะเกิด อาทิตย์ที่ 2 มักจะดีขึ้นเองภายใน 1-2 อาทิตย์อาการคันของบริเวณเต้านมเกิดจากการที่ผิวหนัง ตึงหลังการเสริมหน้าอกสามารถ บรรเทาอาการโดยใช้โลชั่นทาที่เต้านมแต่อย่าให้ถูกแผลและประคบเย็นก็ช่วยให้ดีขึ้นได้
- แผลเป็น ยาหลายชนิดช่วยลดปัญหาแผลเป็น เช่น วิตามิน E ,ฮีลูดอยด์ ,สเตียรอยด์ ขึ้นอยู่กับแพทย์แต่ละคนจะเลือกใช้ยาได้ การนวดบริเวณแผลเป็น จะช่วยให้แผลแบนลงและนิ่มลงได้ และช่วยป้องกันไม่ให้แผลเป็นนูน
- ผิวหนังตึงหลังจากการเสริมหน้าอกไป ผิวหนังบริเวณหน้าอกก็จะตึงใสจากการบวมและจากยาชาที่ฉีดขณะที่ทำผ่าตัด โดยทั่วไป อาการบวมตึงจะลดลงใน 2-3 อาทิตย์ผิวหนังบริเวณนั้นจะดูปกติและเป็นธรรมชาติคุณสามารถใช้โลชั่นทาผิวเพื่อลดอาการตึงแห้งของหน้าอกได้
- ความรู้สึกในระยะที่มีการหายของแผลบริเวณหัวนมจะมีความรู้สึกไวมากต่อการสัมผัสเกิดจากการที่เส้นประสาทที่ได้รับการกระทบกระเทือนกำลังหายอาการเหล่านี้จะดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2-3 อาทิตย์การนวดที่บริเวณเต้านมสามารถช่วยลดอาการดังกล่าวได้
-อาการเขียว ในบางคนที่มีผิวขาวมาก หลังผ่าตัดอาทิตย์แรกจะเขียวหรือบวมที่แผลผ่าตัดมาก โดย 1-2 วันแรกจะแดง ในวันที่ 3-4 จะเริ่มเขียว ในคนที่ผ่าตัดที่รักแร้จะมีอาการเขียวที่รักแร้ ในวันที่ 3-4 อาการเขียวจะลดลงมาที่แขนในอาทิตย์ที่ 1-2 โดยทั่วไปอาการเขียวที่หน้าอกจะหายไปในวันที่ 7 -10 สำหรับบริเวณหน้าอกระยะแรกๆจะบวมอย่างเดียวอาการเขียวจะเริ่มที่ฐานนม ในอาทิตย์ที่ 2 และอาทิตย์ที่ 3อาการเขียวจะลดลงมาที่หน้าท้องส่วนบนตามแรงโน้มถ่วงของโลกอาการเขียวปกติ จะมีบ้างแต่ไม่มากแต่ถ้าเขียวมากๆควรติดต่อแพทย์โดยทันทีเพราะอาจมีเลือดค้างข้างในมากผิดปกติ โดยทั่วไปการดูแลทำโดยใช้น้ำอุ่นประคบบริเวณที่เขียวจะช่วยให้อาการที่เขียวหายเร็วขึ้น
- คลื่นไส้อาเจียน เกิดจากการดมยาสลบ โดยทั่วไปยาลดอาการอาเจียนสามารถช่วยลดอาการดังกล่าวได้ อาการนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในทุกคน
- การคันบริเวณผิวหนังเกิดจากการหายของแผลภายในและแผลเส้นประสาทอาการดังกล่าวจะดีขึ้นเรื่อยๆ
- อาการบวม ในระยะแรกหน้าอกจะรู้สึกบวมและมีอาการตึง ซึ่งเป็นอาการปกติผ่าตัดทุกชนิดเมื่อเนื้อเยื่อได้ถูกกระทำดังนั้น อาการเหล่านี้จะดีขึ้นได้แต่ในช่วง 2 อาทิตย์ ยากลุ่ม Arnicaสามารถช่วยลดอาการบวมได้
- การนวด เริ่มต้นตั้งแต่อาทิตย์แรกใช้มือ 2 ข้างดันเต้านมเข้าหากันใช้ฝ่ามือกดบริเวณฐานนมใต้ถุงเต้านมเคลื่อนที่ขึ้นบนใช้มือด้านตรงข้ามกับหน้าอกข้างนั้นๆกดบริเวณหัวนมให้ถุงซิลิโคนเลื่อนไปมาในอาทิตย์ที่ 2 ทำแบบอาทิตย์ที่ 1 แต่ให้ออกแรงมากขึ้น อย่างไรก็ตามเรื่องของการนวด แพทย์จะดูแลตามเทคนิคของแต่ละท่าน บางท่านอาจให้กลบมาพบแพทย์ หรือมีเจ้าหน้าที่ทำการนวดให้ ตรงนี้แล้วแต่นโยบายการให้บริการของแต่ละโรงพยาบาลค่ะ