การผ่าตัด รีแพร์ เลเบีย ตกแต่งช่องคลอด
ปรึกษามาดามวุ้นเส้น จองคิวทำศัลยกรรม
ไลน์ id :@pavoonsen ( มี@นะคะ )
Tel: 0900420999
เวลาทำการ 11.00-20.00 น
“9 ปัญหาจุดซ่อนเร้น รักษาได้ด้วยเลเซอร์”
สมัยก่อนเมื่อพูดถึงจุดซ่อนเร้นของผู้หญิง เรามักจะไม่กล้าพูดคุยและรู้สึกเขินอาย ไม่กล้าพบแพทย์เพื่อตรวจภายใน แล้วนับประสาอะไรกับเรื่องของการตกแต่งทางนรีเวชที่คนส่วนใหญ่จะคิดว่าเป็นสิ่งไม่จำเป็น แต่ในปัจจุบันต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว หรือน่าอายที่จะพูดคุยและปรึกษากับแพทย์อีกต่อไป เพราะการตกแต่งทางนรีเวชนั้นนอกจากจะช่วยให้คุณกลับมาเป็นสาวรุ่นๆ อีกครั้งแล้ว ยังช่วยลดปัญหาที่มีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของคุณได้อีกด้วย แถมตอนนี้ยังมีวิวัฒนาการในการนำเลเซอร์มาใช้เพื่อช่วยตกแต่งและผ่าตัดจุดซ่อนเร้นให้กับคุณผู้หญิง ซึ่งเป็นที่ยอมรับแล้วว่าทั้งปลอดภัยและได้ผลดีกว่าการผ่าตัดด้วยการใช้มีดแบบเดิม
หากตอนนี้คุณยังสงสัยอยู่ว่าแล้วทำไมคุณถึงจำเป็นต้องทำการตกแต่งจุดซ่อนเร้นล่ะ …คำตอบง่ายๆ ก็คือ ถ้าคุณเป็นผู้หญิงที่มีปัญหาต่างๆ เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาแคมเล็กหรือแคมใหญ่หย่อนยานผิดปกติจนทำให้คุณรู้สึกเจ็บเวลาสวมกางเกงรัดรูป, ปัญหาช่องคลอดหย่อนยานหรือกว้างผิดปกติ ทำให้คุณและคนรักมีความรู้สึกไม่กระชับ มีเสียงลมดังในขณะมีเพศสัมพันธ์, ปัญหามดลูกย้อยลงมาในช่องคลอดจนทำให้รู้สึกปวดท้องน้อยเวลาที่มีเพศสัมพันธ์, ปัญหากลั้นปัสสาวะไม่อยู่หรือที่เรียกว่าปัสสาวะเล็ด ทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณจุดซ่อนเร้น เกิดเชื้อรา กลิ่นไม่พึงประสงค์ตามมา และหมดความมั่นใจในชีวิตประจำวันไป ซึ่งหากคุณกำลังประสบพบเจอสิ่งต่างๆ ดังที่กล่าวไปนี้เราแนะนำว่าคุณควรมาปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาจะดีกว่า
ก่อนจะเริ่มต้นทำการตกแต่งจุดซ่อนเร้นนั้นเรามาทำความรู้จักกับอวัยวะเพศหญิงกันก่อนว่ามีโครงสร้างอย่างไร เริ่มต้นจาก อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก จะเป็นส่วนที่อยู่ด้านนอกและรวมถึงผิวหนังที่อยู่ล้อมรอบอวัยวะเพศทั้งหมด, เนินหัวหน่าว คือ เนินเนื้อเยื่อชั้นไขมันที่อยู่ข้างหน้าบริเวณเชิงกราน, แคมใหญ่ หรือแคมนอก เป็นขอบของแคมด้านนอก ซึ่งขยายจากเนินหัวหน่าวล้อมรอบปากช่องคลอด, แคมเล็ก หรือแคมใน จะอยู่ระหว่างแคมใหญ่ รวมกันกับปุ่มล่างที่ทางเข้าปากช่องคลอดและด้านบนจะติดกับหนังคลุมปุ่มคลิตอริส, คลิตอริส เป็นปุ่มเล็กๆ อยู่เหนือปากช่องคลอด ขนาดรูปร่างของคลิตอริสในผู้หญิงแต่ละคนจะแตกต่างกัน โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 1/8 ถึง 3/8 นิ้ว, รูเปิดของท่อปัสสาวะ คือช่องเล็กๆ ที่อยู่ใต้ปุ่มคลิตอริสและอยู่เหนือปากช่องคลอด เป็นที่ที่ปัสสาวะจะไหลออกและเป็นช่องนำไปสู่ท่อปัสสาวะ, ท่อปัสสาวะ เป็นท่อที่นำปัสสาวะออกมาจากกระเพาะปัสสาวะออกสู่ภายนอก, ปากช่องคลอด จะเป็นทางเข้าที่นำไปสู่ช่องคลอด และสุดท้าย ช่องคลอด จะเป็นเหมือนท่อเชื่อมต่อกับมดลูกและปากมดลูก มีลักษณะเป็นกล้ามเนื้อที่เป็นท่อยาวอยู่ระหว่างท่อปัสสาวะกับทวารหนัก จุดนี้จะเป็นจุดที่ประจำเดือนไหลผ่าน เป็นทางผ่านของการมีเพศสัมพันธ์ และการคลอดบุตรด้วย
ปัจจุบันได้มีการนำเลเซอร์มาใช้ในการตกแต่งทางนรีเวชหรือจุดซ่อนเร้น ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าการผ่าตัดด้วยเลเซอร์นั้นมีข้อดีตรงที่จะช่วยให้ผลการผ่าตัดเป็นที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเลเซอร์สามารถควบคุมความลึกของแผลผ่าตัดได้ดี อีกทั้งยังช่วยให้คนไข้เสียเลือดน้อยลง ลดการทำลายเส้นเลือดที่มาเลี้ยงแผลผ่าตัดและเนื้อเยื่อที่อยู่ข้างๆ แผลผ่าตัด และยังช่วยให้แผลหายเร็วขึ้นอีกด้วย ซึ่งเป็นข้อที่แตกต่างจากการผ่าตัดแบบทั่วไปที่มีการใช้มีดผ่าตัด และสามารถนำมาใช้ได้ทั้ง การผ่าตัดกระชับช่องคลอด, ผ่าตัดแก้ไขปัสาวะเล็ด, ผ่าตัดยกมดลูก, ตกแต่งแคมเล็ก, ตกแต่งแคมใหญ่, ตกแต่งปากช่องคลอด, ตกแต่งหนังหุ้มคลิตอริส, ตกแต่งเยื่อพรหมจารี แม้กระทั่งการใช้เลเซอร์เพื่อช่วยรักษาขาหนีบให้ขาวขึ้นก็สามารถทำได้เช่นกัน
ซึ่งก่อนการผ่าตัดด้วยเลเซอร์ทุกครั้งแพทย์จะให้ยาชาฉีดเข้าช่องไขสันหลังหรือการดมยาสลบ ดังนั้นคนไข้จึงต้องงดน้ำหรืออาหารก่อนทำการผ่าตัดอย่างน้อย 6 ชั่วโมง เพื่อลดความเสี่ยงในการสำลักเศษอาหารในระหว่างหรือหลังจากการทำผ่าตัด ยกเว้นการใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอดโดยไม่มีแผลผ่าตัดและการรักษาขาหนีบให้ขาวขึ้นเท่านั้นที่อาจไม่ต้องให้ยาสลบ
1. “รีแพร์” คือการทำให้ช่องคลอดกระชับขึ้น อันเนื่องมาจากการคลอดบุตรหลายคนที่อาจจะส่งผลให้ช่องคลอดกว้างขึ้นจนมีผลกระทบต่อชีวิตคู่หรือการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น มีอาการท้องผูกเรื้อรัง, มีอาการกลั้นผายลมไม่อยู่, มีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่, ช่องคลอดมีก้อนนูนออกมา และมีลมหรือมีเสียงคล้ายผายลมออกจากช่องคลอดขณะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งสามารถนำเลเซอร์มาใช้แทนการผ่าตัดทั่วไป และการใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอดโดยไม่ผ่าตัด สำหรับการผ่าตัดด้วยเลเซอร์นี้เมื่อคนไข้หลับเพราะฤทธิ์ยาแล้วแพทย์จะลงมือผ่าตัดด้วยเลเซอร์บริเวณผนังช่องคลอดด้านหลัง โดยตัดเนื้อเยื่อส่วนเกินของผนังช่องคลอดทิ้งเพื่อให้ช่องคลอดมีขนาดเล็กลง หลังจากเสร็จเรียบร้อยจะใช้ไหมละลายเย็บแผลที่ช่องคลอดใช้เวลาทำผ่าตัดด้วยเลเซอร์ 1 ชั่วโมง ส่วนการใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอดโดยไม่มีแผลผ่าตัด จะเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ได้นำมาใช้ในโรงพยาบาลยันฮีเป็นที่แรก วิธีนี้จะเริ่มโดยการใส่หัวเลเซอร์เข้าไปในช่องคลอดแล้วปล่อยแสงเลเซอร์ออกมาในคลื่นความยาวที่เหมาะสม เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อช่องคลอดให้มีความตึงตัวขึ้น คนไข้ต้องทำ 1-2 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกันประมาณ 2-4 สัปดาห์ ทำ 1 คอร์สสามารถอยู่ได้ 1 ปี วิธีนี้จะมีเครื่องมือวัดความตึงตัวของช่องคลอดทั้งก่อนทำ 1 ครั้งและจะวัดหลังทำในช่วง 4-6 สัปดาห์อีกครั้ง ทำให้สามารถเห็นผลของการใช้เลเซอร์กระชับช่องคลอดได้ชัดเจน ใช้ได้ในคนอายุมาก คนอ้วนมาก คนที่เคยผ่าตัดมาก่อน หรือแม้แต่คนที่มีข้อห้ามในการผ่าตัด เช่น โรคเบาหวาน เป็นต้น แต่จะไม่เหมาะสำหรับคนที่มีกล้ามเนื้อช่องคลอดหย่อนยานมากหรือผู้หญิงที่มีบุตรมาแล้วหลายคน หลังทำคนไข้จะไม่สูญเสียเลือดและไม่มีอาการปวดใดๆ
2. “แก้ไขปัสสาวะเล็ดด้วยเลเซอร์” อาจจะฟังดูเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับสาวๆ ที่ยังไม่เคยเจอกับปัญหานี้ แต่หากใครที่กำลังเป็นอยู่คงสร้างความลำบากใจและรู้สึกอายไม่น้อย เพราะไม่ว่าจะกระโดด ไอ จาม หรือหัวเราะ ก็จะไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้ นั่นเป็นผลมาจากตัวท่อปัสสาวะเกิดการหย่อนลง ซึ่งแต่ก่อนนั้นจะสามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัดใส่สายเทปคล้องท่อปัสสาวะ TVT–O (Tension-free Vaginal Tape Obturator) แต่ในปัจจุบันเราสามารถแก้ไขปัสสาวะเล็ดด้วยเลเซอร์ได้ นับว่าเป็นการรักษาภาวะไอจามปัสสาวะเล็ดแบบที่ไม่มีบาดแผลแทน ซึ่งคนไข้จะไม่มีอาการเจ็บแผลผ่าตัดและไม่สูญเสียเลือด เหมาะกับคุณผู้หญิงที่มีภาวะปัสสาวะเล็ดแบบไม่รุนแรงมาก ซึ่งผลของการแก้ไขปัสาวะเล็ดด้วยเลเซอร์นั้นจะทำให้บริเวณรอบช่องคลอดมีการสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น แต่การตอบสนองของร่างกายแต่ละบุคคลก็จะได้ผลไม่เหมือนกัน
3. “ผ่าตัดยกมดลูก” สาเหตุที่แท้จริงของการผ่าตัดยกมดลูกนั้นเกิดจากการหย่อนคล้อยของปากมดลูกหรือตัวมดลูกหรือมดลูกยื่นผ่านมาทางปากช่องคลอด จะมีลักษณะเป็นก้อนเนื้อหรือปุ่มนูนแข็งๆ ในช่องคลอดที่สามารถรู้สึกหรือมองเห็นได้ ซึ่งการแก้ไขปัญหานี้สามารถทำได้โดยการผ่าตัดยกมดลูกหรือปากมดลูกผ่านทางช่องท้องเพื่อลดขนาดของเอ็นที่พยุงปีกมดลูกให้สั้นลง เริ่มต้นโดยการผ่าตัดด้วยเลเซอร์ก่อน จากนั้นแพทย์จะดึงเอ็นที่ยึดปีกมดลูกทั้ง 2 ข้าง ผ่านเยื่อบุช่องท้องออกมาที่ด้านข้างของกล้ามเนื้อหน้าท้อง หลังจากนั้นจะนำมาเย็บติดกับเอ็นบุผนังหน้าท้องทั้ง 2 ข้างด้วยไหมที่ไม่ละลาย และเย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย ใช้เวลาในการผ่าตัด 1 ชั่วโมง
4. “ตกแต่งแคมเล็ก” ผู้หญิงแต่ละคนจะเกิดมามีแคมเล็กขนาดแตกต่างกัน หลายคนมีแคมเล็กที่ขนาดใหญ่ผิดปกติตั้งแต่เกิด หรือเกิดจากกิจกรรมทางเพศ ฮอร์โมนในร่างกาย บาดแผลจากอุบัติเหตุ การคลอดบุตร หรืออายุที่มากขึ้น ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายตัวในการทำกิจวัตรประจำวัน อาจก่อให้เกิดปัญหาทางด้านจิตใจ หรือรู้สึกอายเมื่อมีเพศสัมพันธ์ โดยทั่วไปใช้เวลาในการผ่าตัด 1-2 ชั่วโมง แพทย์จะผ่าตัดด้วยเลเซอร์โดยการตัดเนื้อเยื่อส่วนเกินของแคมเล็กออกให้แคมเล็กมีรูปร่างเหมือนเสี้ยวพระจันทร์ แล้วเย็บแผลซ่อมให้สวยงามพร้อมกับห้ามเลือดด้วยไหมละลายช้าอีกครั้ง หลังผ่าตัดคนไข้จะพักฟื้นอยู่ในห้องพักเพียง 1 ชั่วโมงเพื่อดูอาการ หากไม่มีอะไรผิดปกติก็สามารถกลับบ้านได้
5. “ตกแต่งแคมใหญ่” คุณผู้หญิงบางคนเจอปัญหาแคมใหญ่ย่นผิดปกติที่เกิดตามมาหลังการคลอดบุตรหรือเกิดขึ้นเองเมื่ออายุมากขึ้น การแก้ปัญหานี้ไม่เพียงแต่จะเพิ่มความงามทางนรีเวชเท่านั้น แต่ยังช่วยลดปัญหาความไม่สบายตัวที่คุณเป็นอยู่ด้วย เช่น ไม่สามารถใส่กางเกงรัดรูปได้ เวลานั่งจะรู้สึกเจ็บ หรือแม้แต่เกิดการเสียดสีเมื่อมีการเดินมากๆ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ ซึ่งแพทย์จะเริ่มการผ่าตัดด้วยเลเซอร์หลังจากที่คนไข้หลับแล้ว โดยจะตัดเนื้อเยื่อส่วนเกินของแคมใหญ่ให้มีรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยวของแคมใหญ่ด้านในและด้านนอก และจะซ่อมแผลให้สวยงามด้วยไหมละลายเส้นเล็กเพื่อห้ามเลือด เย็บซ้ำ 2-3 รอบ รอยแผลจะถูกซ่อนไว้ระหว่างแคมเล็กและแคมใหญ่ ใช้เวลาในการผ่าตัด 1-2 ชั่วโมง
6. “ตกแต่งปากช่องคลอด” หรือที่เรียกกันว่า “ฝีเย็บ” ซึ่งคือพื้นที่ที่มองเห็นระหว่างช่องคลอดและทวารหนัก ส่วนใหญ่แล้วมาจากการตัดเพื่อขยายปากช่องคลอดตอนคลอดบุตร ส่วนสาเหตุหลักที่ทำให้ฝีเย็บฉีกขาดได้นั้นอาจจะเกิดจากอุบัติเหตุหรือจากการมีเพศสัมพันธ์ หรือบางรายอาจเกิดเมื่อมีอายุมากขึ้นก็เป็นได้เช่นกัน สำหรับการซ่อมแซมและตกแต่งปากช่องคลอดหรือฝีเย็บนั้น จะไม่ลงลึกไปถึงในช่องคลอดเพียงแต่จะช่วยตกแต่งให้ส่วนที่สึกหรอหลังการให้กำเนิดบุตรให้เข้าที่เท่านั้น และจะเริ่มผ่าตัดด้วยเลเซอร์โดยเริ่มเลาะปากช่องคลอดด้านหลังส่วนเกินที่ฉีกขาดหรือส่วนที่เป็นรอยย่นออก และจะนำปากช่องคลอดทั้ง 2 ด้านที่ขาดออกจากกันมาเย็บด้วยไหมละลายช้าให้ชิดกันใหม่ตรงปากช่องคลอด ความลึกจะไม่ถึง 2-3 เซนติเมตร เพื่อให้เส้นผ่าศูนย์กลางของปากช่องคลอดแคบขึ้น แล้วจึงเย็บขอบแผลซ้ำอีกรอบด้วยไหมละลายช้าเส้นเล็กเพื่อป้องกันเลือดออกหลังผ่าตัด ใช้เวลาในการผ่าตัด 1-1 ½ ชั่วโมง
7. “ตกแต่งหนังหุ้มคลิตอริส” ขนาดรูปร่างของคลิตอริสในผู้หญิงแต่ละคนจะแตกต่างกัน โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 1/8 ถึง 3/8 นิ้ว มีความไวต่อประสาทสัมผัสสูงมาก ส่วนปุ่มกระสันหรือส่วนปลายสุดของคลิตอริสที่อยู่ภายนอกจะห่อหุ้มด้วยหนังคลุมคลิตอริส เมื่อปลายหนังหุ้มคลิตอริสเกินออกมาจะสร้างความรำคาญใจให้กับผู้หญิง บางคนอาจจะเกิดปัญหาทางด้านสุขลักษณะหรือด้านความพึงพอใจทางเพศสัมพันธ์ตามมาได้ วิธีการตกแต่งหนังหุ้มคลิตอริสนั้นในปัจจุบันมีการผ่าตัดด้วยเลเซอร์เพื่อช่วยลดปัญหาเรื่องของการสูญเสียเลือดและเพิ่มความแม่นยำในการผ่าตัด เมื่อคนไข้หลับแล้ว แพทย์จะลงมือผ่าตัดโดยการตัดหนังคลุมคลิตอริสหรือเนื้อเยื่อรอบคลิตอริสออกเพื่อลดขนาดและความยาวของหนังคลุมคลิตอริส เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วแพทย์จะเย็บแผลห้ามเลือดด้วยไหมละลายช้าเส้นเล็ก และเย็บขอบแผลอีกรอบเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการมีเลือดออกหลังผ่าตัด
8. “ตกแต่งเยื่อพรหมจารี” หลายคนเชื่อว่าเยื่อพรหมจารีคือสิ่งมีค่าสำหรับผู้หญิง บ่งบอกถึงความบริสุทธิ์ และยังมีผลในเรื่องของความเชื่อทางด้านจิตใจ วัฒนธรรม ศาสนา และสังคมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งในการทำศัลยกรรมตกแต่งเยื่อพรหมจารีนั้นจะเหมาะกับผู้หญิงที่ยังไม่เคยคลอดบุตรแบบธรรมชาติ หรือเหมาะกับผู้หญิงที่ยังไม่เคยตั้งครรภ์มาก่อน แพทย์จะเริ่มผ่าตัดตกแต่งเยื่อพรหมจารีด้วยเลเซอร์โดยการเลาะตามขอบของเยื่อพรหมจารีที่ฉีกขาดตามจุดต่างๆ โดยรอบ แล้วเย็บซ่อมด้วยไหมละลายช้าเส้นเล็กอย่างน้อย 2 รอบ เพื่อห้ามเลือด ที่สำคัญต้องทำการผ่าตัดอย่างละเอียดอ่อนที่สุดในบริเวณปากช่องคลอดและขอบของเยื่อพรหมจารี ใช้เวลาในการทำการผ่าตัดด้วยเลเซอร์ 30 นาที จนถึง 1 ชั่วโมง หลังผ่าตัดต้องนอนพักที่โรงพยาบาล 1 คืน แล้วจึงกลับบ้านได้
9. “รักษาขาหนีบให้ขาว” ผิวหนังบริเวณขาหนีบจะมีเม็ดสีเยอะกว่าผิวหนังส่วนอื่นๆ ซึ่งการเกิดขาหนีบดำนั้นมาจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะ ใส่กางเกงยีนส์หรือกางเกงรัดรูปมากไป มาจากความอ้วนเมื่อเวลาเดินจะเกิดการเสียดสีของผิวหนังหรือแพ้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ซึ่งรอยขาหนีบดำที่เกิดขึ้นนี้ไม่ว่าจะเกิดด้วยปัญหาอะไร ก็ทำให้คุณสาวๆ รู้สึกอายและไม่มั่นใจได้เหมือนกัน สำหรับวิธีรักษาขาหนีบดำในปัจจุบันนอกจากการรักษาด้วยวิธีการทาครีมแล้ว ยังสามารถรักษาขาหนีบดำให้ขาวขึ้นได้ด้วยการใช้เลเซอร์ลบรอยดำด้วย เพื่อช่วยยับยั้งการเกิดเม็ดสี ส่วนจะต้องยิงเลเซอร์กี่ครั้งนั้นจะขึ้นอยู่กับความเข้มของสีผิวที่เกิดการเสียดสีและระยะเวลาในการเกิดด้วย ทั้งนี้การยิงเลเซอร์อาจจะเห็นผลไม่ชัดเจนนักสำหรับผู้ที่เป็นคนผิวคล้ำอยู่แล้ว หลังยิงเลเซอร์รักษาขาหนีบดำควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดแม้ว่าจุดที่ทำเลเซอร์จะอยู่ในร่มผ้าอยู่แล้วก็ตาม พยายามลดความอ้วนหากคุณมีรอยขาหนีบดำอันเนื่องมาจากการเสียดสีของน้ำหนักตัวที่มากจนเกินไป ในตอนกลางคืนหากเป็นไปได้ไม่ควรใส่กางเกงชั้นในนอนเพื่อลดการรัดแน่นบริเวณขอบขาที่อาจทำให้เกิดรอยดำขึ้นได้อีก สุดท้ายเมื่อถึงเวลาแพทย์นัดกลับมายิงเลเซอร์ซ้ำควรมาตามนัดหมายเพื่อรักษาตามขั้นตอนต่อไป
หลังการทำการผ่าตัดด้วยเลเซอร์ ในคนไข้บางรายอาจต้องสังเกตอาการก่อน 1 ชั่วโมงที่ห้องพักฟื้น หากไม่มีอะไรผิดปกติ ตรวจแผลผ่าตัดไม่มีเลือดออกจากแผลผิดปกติ แพทย์ก็จะให้ยาปฏิชีวนะ, ยาแก้อักเสบที่ช่วยลดอาการปวดแผลผ่าตัด และยาพาราเซ็ตตามอลแก้ปวด แล้วก็จะให้คนไข้กลับบ้านได้ สำหรับการตกแต่งแคมเล็กหรือแคมใหญ่ใน 24 ชั่วโมงแรก คนไข้อาจต้องประคบเย็นเพื่อช่วยลดอาการบวมด้วย Cold Pack ห้ามใช้วิธีการประคบเย็นด้วยการใช้น้ำแข็งใส่ถุงพลาสติกเด็ดขาดเพราะความชื้นและไอน้ำจากถุงพลาสติกอาจก่อให้เกิดการอักเสบและการติดเชื้อที่แผลผ่าตัดได้ง่ายขึ้น ในช่วงวันแรกสำหรับคนไข้ที่ตกแต่งปากช่องคลอดและผ่าตัดยกมดลูกอาจจำเป็นต้องสวนสายปัสสาวะไว้ก่อน ควรงดอาบน้ำและให้เปลี่ยนมาทำความสะอาดร่างกายด้วยการเช็ดตัวแทน หลังผ่าตัดไปแล้ว 1 สัปดาห์ ควรทําความสะอาดแผลผ่าตัดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหลังอาบน้ำในตอนเช้าและก่อนนอน และเฉพาะคนที่ผ่าตัดตกแต่งแคมเล็กหรือแคมใหญ่โดยเลเซอร์ อาจจะต้องใช้ไดร์เป่าผมอุ่นๆ เป่าบริเวณแผลผ่าตัดนานครั้งละ 10 นาที เพื่อช่วยให้แผลแห้งเร็วขึ้น ส่วนการทำความสะอาดแผลผ่าตัดหลังปัสสาวะให้ซับด้วยทิชชูเปียก (Sanitary Wipes) และหลังการถ่ายอุจจาระควรทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าแล้วซับเบาๆ เพื่อให้แห้ง
ส่วนเรื่องการดูแลตัวเองที่ไม่ควรละเลยหลังการตกแต่งทางนรีเวชด้วยเลเซอร์ทุกราย ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกอย่าตกใจหากมีเลือดออกจากแผลบ้างและควรใส่ผ้าอนามัยแบบบางเพื่อสังเกตปริมาณเลือดที่ออก หากมีเลือดออกมากหรือมีเลือดออกเป็นก้อนสีแดงสด, แผลมีอาการแดงบวม, ไข้สูงไม่ทราบสาเหตุ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที และควรงดการแช่น้ำอุ่น แช่น้ำในอ่างอาบน้ำหรือว่ายน้ำในสระเป็นเวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์แรก เพื่อหลีกเลี่ยงความอับชื้นบริเวณแผล และในช่วง 2-4 สัปดาห์ คนไข้จะเริ่มทำกิจกรรมต่างๆ ได้ แต่ควรงดการออกกำลังกายหรือออกแรงยกของที่หนักจนเกินไป หลังจากนั้นช่วง 4-6 สัปดาห์ต่อมา คนไข้จะเริ่มออกกำลังกาย แช่น้ำในอ่างอาบน้ำ วิ่งหรือเดินได้เป็นปกติ แต่ควรงดเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ และงดกินของหมักดองก่อน ที่สำคัญควรงดเว้นการมีเพศสัมพันธ์ในช่วง 2-4 สัปดาห์สำหรับการผ่าตัดตกแต่งแคมเล็กหรือแคมใหญ่ และ 6 สัปดาห์สำหรับการผ่าตัดช่องคลอดหรือปากช่องคลอด หลังจากนั้นแผลจะเริ่มหายเป็นปกติ คนไข้ควรมาพบแพทย์ตามนัดหลังผ่าตัด 1-2 สัปดาห์
เห็นแล้วใช่มั้ยล่ะว่าการเสริมความงามให้กับจุดซ่อนเร้นในปัจจุบันนั้นสามารถทำได้หลายอย่าง สามารถกลับไปทำงานได้ภายใน 3-5 วัน ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดความผิดปกติ เพราะการตกแต่งทางนรีเวชนั้นไม่มีความเสี่ยงในด้านขาดความรู้สึกทางเพศ และนอกจากจะส่งผลดีในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์แล้ว ยังส่งผลดีในเรื่องของสภาพจิตใจและสุขภาพภายนอกของตัวคุณเองอีกด้วย ส่วนใครที่ยังไม่มั่นใจในเรื่องของการตกแต่งจุดซ่อนเร้นนั้น ก็สามารถปรึกษาปัญหาต่างๆ กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านรีเวชก่อนได้ เพื่อให้มีข้อมูลในการตัดสินใจก่อนทำ แต่อย่าลืมว่าจุดซ่อนเร้นเป็นจุดที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าคุณจะนั่ง จะเดิน จะปัสสาวะ จะอุจจาระ หรือแม้แต่การมีเพศสัมพันธ์ ก็มีส่วนเกี่ยวข้องไปซะหมด เพราะฉะนั้นจุดนี้จึงเป็นส่วนสำคัญสำหรับผู้หญิงอีกจุดหนึ่งที่คุณไม่ควรละเลย
การรักษาแบบ Laser กับแบบใบมีดแตกต่างกันอย่างไร
การรักษาแบบเลเซอร์จะช่วยลดการสูญเสียเลือด ลดการทำลายเส้นเลือดที่มาเลี้ยงแผลผ่าตัดและเนื้อเยื่อที่อยู่ข้างใต้แผลผ่าตัด ทำให้กระบวนการหายของแผลผ่าตัดเร็วขึ้นเมื่อเทียบกับการผ่าตัดโดยใช้ใบมีดแบบเดิม
การรักษาด้วย Laser มีเพศสัมพันธ์ได้เร็วขึ้นหรือไม่
ควรยกเว้นมีเพศสัมพันธ์หลังทำประมาณ 45 – 60 วัน เช่นเดียวกับการรักษาแบบเดิม
การรักษาด้วย Laser ใช้ระยะพักฟื้นสั้นกว่าหรือไม่
การดูแลหลังผ่าตัดด้วยเลเซอร์ ความเจ็บปวดและการระบมของแผลน้อยกว่า ฟื้นตัวได้ไวกว่าการผ่าตัดโดยใช้ใบมีด
ช่องคลอดหย่อนคล้อย กระชับด้วย Laser ได้หรือไม่
สามารถทำได้ แต่การกระชับด้วยเลเซอร์จะต้องมีภาวะช่องคลอดหย่อนยานไม่มากนัก เนื่องจากความกระชับที่ได้เป็นผลมาจากการสร้างคอลลาเจนบริเวณรอบๆ ช่องคลอด ซึ่งเนื้อเยื่อช่องคลอดของผู้หญิงแต่ละคนอาจมีการตอบสนองต่อเลเซอร์ สร้างคอลลาเจนได้ไม่เท่ากัน
การเลเซอร์แคมให้ขาว ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล
ต้องทำการเลเซอร์อย่างน้อย 3 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างแต่ละครั้งประมาณ 2 – 3 สัปดาห์
หลังการเลเซอร์แคมแล้ว จะขาวถาวรหรือไม่
เลเซอร์ทำให้ขาวขึ้นได้แต่ไม่ถาวร ส่วนจะขาวได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและการปฏิบัติตัวในชีวิตประจำวัน
เลเซอร์สามารถรักษาเรื่องปัสสาวะเล็ดซึมได้หรือไม่
สามารถรักษาได้ การรักษาด้วยเลเซอร์จะเป็นการทำให้บริเวณรอบช่องคลอดมีการสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น โดยไม่มีบาดแผล ไม่มีอาการเจ็บแผลและไม่สูญเสียเลือด เหมาะกับท่านที่มีภาวะปัสสาวะเล็ดแบบไม่รุนแรงมาก