แค่ อยากหน้าเรียว ต้องไปเกาหลี เชียวรึ
ปรึกษามาดามวุ้นเส้น
ติดต่อ line : @pavoonsen (มี@นะคะ)
Tel: 0900420999
เวลาทำการ 11.00-20.00 น
กระแส “เกาหลีฟีเวอร์” ในเมืองไทยเรายามนี้ ไม่เพียงส่งผลให้คนไทย โดยเฉพาะที่เป็นผู้หญิง “เห่อ” นักร้อง-ดาราเกาหลีใต้กันมาก ทั้งหนัง ละคร คอนเสิร์ตจากเกาหลี ได้รับความนิยมในไทยอย่างสูง กับการแต่งเนื้อแต่งตัว เสื้อผ้า-หน้า-ผมของคนไทย ยุคนี้ โดยเฉพาะวัยรุ่น ก็ตามแห่ “สไตล์เกาหลี” กันทั่วเมือง…
และกับการทำ “ศัลยกรรม” เกาหลีก็สร้างกระแสได้แรง
ถึงขนาดมี “ทัวร์ทำศัลยกรรม” นำคนไทยไปทำที่เกาหลี
อย่างไรก็ตาม กับเรื่องการทำศัลยกรรมนี้ ทราบหรือไม่ว่า ?? “บุคลากรแพทย์ด้านศัลยกรรมของประเทศไทยก้าวหน้ากว่าวงการศัลยกรรม เกาหลีกว่า 30 ปี !!!” ซึ่งทางสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย เป็นฝ่ายที่ออกมาเปิดเผยในเรื่องนี้ พร้อมมีข้อมูลเรื่องราวที่เป็นการยืนยัน โดยทีมแพทย์ไทยได้รับเชิญไปบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมของศัลยกรรมเพื่อบุคลิกภาพให้กับศัลยแพทย์ชาวเกาหลี ที่กรุงโซล สาธารณ รัฐเกาหลี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านวิชาการความก้าวหน้า กับกลุ่มสตรีชาวเกาหลี
ทั้งนี้ นพ.ชลธิศ สินรัชตานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าฯ บอกว่า… ปัจจุบันบุคลากรแพทย์ด้านศัลยกรรมของประเทศไทยก้าวหน้ากว่าเกาหลีใต้กว่า 30 ปี ไทยเรามีแพทย์ด้านศัลยกรรมที่เป็นแพทย์ผู้วชาญพิเศษเฉพาะทาง ขณะที่บุคลากรแพทย์ของเกาหลียังเป็นศัลยแพทย์ทั่วไป ซึ่งเกาหลีใต้ได้รับอิทธิพลการแพทย์ด้านศัลยกรรมมาจากประเทศ ญี่ปุ่น ที่มีการพัฒนาด้านนี้พร้อม ๆ กับไทย
อย่างเช่นการ “ทำตาสองชั้น” ปัจจุบันเกาหลีใต้ยังใช้วิธีเจาะ 4 รู มีการวางยาสลบ เย็บด้วยเข็มขนาดใหญ่ ทำให้เกิดรอยแผลเป็นขนาด ยาว แต่ในไทยปัจจุบันเจาะรูเล็ก ๆ บริเวณเปลือกตาเพียง 2 รู ไม่ต้องวางยาสลบ การเย็บแผลก็นำกล้องจุลทรรศน์มาใช้ ซึ่งทำให้มีรอยแผลขนาด เล็ก ลดอาการบวมลงได้มาก แต่ด้วยข้อจำกัดที่ว่าคนไทยจะไม่มีการพูดถึงการศัลยกรรมใบหน้ากันมาก คนทั่วไปจึงไม่ค่อยรับรู้เรื่องความก้าวหน้านี้
หรืออย่างการ “เสริมจมูก” ไทยก็เป็นประเทศแรกที่เสริมจมูกด้วยการนำไขมันของเจ้าตัวมาใช้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่ ลดความเสี่ยงจากสิ่งแปลกปลอม จะแตกต่างและเสี่ยงน้อยกว่าใช้ “ซิลิโคน”
“ไทยเราพัฒนาศัลยกรรมจากยุคแรกที่เน้นแก้ไขความบกพร่องทางใบหน้าจากอุบัติเหตุ หรือพิการแต่กำเนิด เช่น ปากแหว่งเพดานโหว่ เพื่อให้ใช้ชีวิตในสังคมได้โดยไม่เขินอาย และยุคต่อมานิยมทำกันในหมู่ คนทำงานกลางคืน จนปัจจุบันเริ่มมุ่งเน้นเพื่อเสริมบุคลิกภาพให้ดูดี เป็นที่ ยอมรับ”
นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าฯ บอกอีกว่า… ประเทศไทยนั้น ศัลยแพทย์ซึ่งทำศัลยกรรมบริเวณใบหน้าจะมีพื้นฐานความรู้จาก แพทย์หู คอ จมูก ปาก ก่อนแตกแขนงเป็นแพทย์พิเศษเฉพาะทาง อาทิ ผู้วชาญด้านตา จมูก ปาก เส้นผม ฟัน หน้าอก จนถึงการ “แปลงเพศ” ซึ่งได้รับการยอมรับทั่วโลก นอกจากนี้ ศัลยแพทย์ไทยยังมีการวิจัยพัฒนาเทคนิคและเทคโนโลยีในการศัลยกรรมความงามอยู่ตลอดเวลา
สำหรับการรับเชิญไปบรรยายที่เกาหลีใต้ นพ.ชลธิศเผยว่า… สมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าฯ ก็ได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมศัลยกรรมและเวชศาสตร์แห่งประเทศไทย และสมาคมท่องเที่ยวอเมริกาแห่งประเทศไทย ในการ “บุกตลาดศัลยกรรมเกาหลีใต้” อย่างเป็นทางการ โดยจัดโครงการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพและบุคลิกภาพขึ้น โดยมีทีมแพทย์ผู้วชาญพิเศษด้านศัลยกรรมต่าง ๆ ร่วม 50 คนเดินทางไปในครั้งนี้ อาทิ….ผศ.ทพ.พรชัย จันศิษย์ยานนท์, นพ.จำรูญ ตั้งกีรติชัย, นพ.สัมฤทธิ์ คมฤทธิ์, พล.ต.ต.นพ.อรรถพันธ์ พรมณฑาพารัตน์, นพ.สรัลชัย เกียรติ สุระยานนท์, พ.ต.อ.ทพ.พิมล บำรุง เป็นต้น
ผศ.ทพ.พรชัย คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้วชาญด้านการปลูกฟันถาวร ระบุว่า… เรื่องการ “ทำฟัน จัดฟัน ทำรากฟัน” ไทยเราก็ถือได้ว่าเป็นหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นในด้านความวชาญงานฝีมือที่ทำได้สวยงาม และรวดเร็ว อีกทั้งเรื่องของฟันไม่ใช่แค่ความงามอย่างเดียว ยังต้องคำนึงถึงเรื่องการทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ของฟัน เพื่อมิให้มีปัญหาในเรื่องของการตัด บด เคี้ยวอาหาร “ในไทยสามารถจัดฟัน ถอนฟัน แล้ว ทำรากเทียมได้เสร็จภายในวันเดียว โดยคนไข้มีอาการบอบช้ำภายหลังการรักษาน้อย”
ขณะที่ นพ.จำรูญ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้วชาญด้านปลูกผม ก็ระบุว่า… ปัจจุบันผู้ชายเองก็นิยมทำศัลยกรรมเช่น กัน อย่างเช่นการ “ปลูกผม” ซึ่งไทยก็มีความวชาญ และทำได้รวดเร็ว ไม่ แพ้สหรัฐอเมริกา โดยการนำเซลล์ที่อยู่บริเวณท้ายทอยมาปลูกแทนผมส่วน ที่หายไป และนอกจากความวชาญ การประหยัดเวลา ที่เป็นจุดแข็งด้านการศัลยกรรมของไทยแล้ว ในเรื่องของค่าใช้จ่ายในไทยก็ยังถูกกว่าประเทศอื่น ๆ “การปลูกย้ายเซลล์ผมหากทำในอเมริกาค่าใช้จ่ายประมาณ 2 ล้านบาทต่อหัว แต่ของไทยจะถูกกว่าถึง 10 เท่า โดยตกหัวละประมาณ 200,000 บาทเท่านั้น”
ทั้งนี้ ปิดท้ายด้ายการระบุของ นพ.ชลธิศ นายกสมาคมศัลย กรรมตกแต่งใบหน้าฯ ที่ว่า… “ความชำนาญ ความปลอดภัย เทคโนโลยีที่ใช้ หรือแม้แต่ราคา วงการศัลยกรรมความงามในประเทศไทยจัดได้ว่าเหนือกว่าเกาหลีใต้ทุกประตู ดังนั้น จึงไม่อยากให้คนไทยจ่ายแพง แล้วยังได้ของเก่า”
และนี่ก็เป็นอีกเรื่องน่าสนใจในยุคที่ “เกาหลีฟีเวอร์” ในไทย
ใครที่คิดจะไปทำ “ศัลยกรรม” ที่เกาหลีใต้…ก็น่าคิด ?!?!?.
บทความนี้ จาก http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1377416